อ่านไพ่ให้ได้ คุมไพ่ให้อยู่ด้วย Hand Ranges, Combo, Blocker
อ่านไพ่ให้ได้ คุมไพ่ให้อยู่ด้วย Hand Ranges, Combo, Blocker จั่วหัวมาอย่างยาก แต่คุณจะลำบากแน่ถ้าแค่เรื่องพื้นฐานแบบนี้ยังไม่รู้ ลำพังแค่รู้ลำดับไพ่ หรืออ่าน Starting Hand ได้นิดหน่อย อย่างเก่งเราไปได้แค่เป็น Fish ที่รอวันตายคาโต๊ะ โป๊กเกอร์ เพราะทำอะไรไม่เป็นนอกจาก Call ตามไปเรื่อย ๆ Raise ไปมั่ว ๆ ช่วยเขาขยาย Pot แล้วก็แพ้ในที่สุด แต่เชื่อหรือไม่ว่าคุณสามารถหยุดความ Fish ในตัวเองได้ง่าย ๆ แค่เข้าใจ Hand Ranges, Combo และ Blocker เท่านั้นเอง
Hand Ranges นั้นสำคัญแค่ไหน
บางคนอาจคิดว่ามันจะอะไรมากมายแค่จัดให้ได้มือที่ดีที่สุดก็พอ ถามก่อนว่าแล้วเราเลือกได้ไหมว่าจะได้ไพ่อะไร เราจะรู้ได้อย่างไรว่าอีกฝ่ายมีไพ่ไหนบ้างในมือ มีโอกาสติดไพ่อะไรบ้าง ในเมื่อเราไม่รู้อย่างนี้ทำได้อย่างเก่งก็แค่เดามั่ว ๆ ยกตัวอย่างเช่น มีใครสักคนอยู่ ๆ ก็ Raise โคตรหนัก เมื่อเจอแบบนี้มันทำให้คิดได้สองอย่างว่า ถ้าไม่ถือ Monster ไว้ก็อาจทำให้เราคิดว่าเขามี Monster อยู่ในมือ เมื่อเป็นแบบนี้มาดูซิว่าเราจะทำอย่างไรได้บ้าง แล้วมันจะส่งผลอย่างไรกับเราที่อ่าน Hand Rages ไม่เป็น
- อย่างแรกคือเราคิดว่าเขา Bluff ก็เลยบ้าจี้ All-in เข้าไป แต่อีกฝ่ายก็หมอบ Bluff แล้ว Call ด้วย Monster แค่นี้แหละเราจบเลย
- อย่างที่สอง เราคิดว่าเขามี Monster จริงก็เลยหมอบ สุดท้ายเขาได้กำไรจากการ Bluff ไปเต็ม ๆ
แต่ถ้าเรามองแบบ Hand Rages ล่ะ เราจะมองว่าเขามีโอกาสที่จะเป็นได้ทั้งสองอย่าง ในมือเขาอาจมีไพ่อยู่หลายแบบ เราก็ตัดสินใจ Call เพราะคิดว่าเขาน่าจะมี Bluff ปนเข้ามาด้วยในกองชิป ขณะเดียวกันมันก็จะช่วยลดความเสียหายหากอีกฝ่ายถือ Monster จริง
วันนี้เราจะมาเอาใจนักเล่นโป๊กเกอร์มือใหม่กัน โดยเราจะช่วยให้บรรดาเหล่ามือใหม่หัดเล่นที่กำลังสับสนกับตัวเองอยู่ว่าเอ๊ะทำไมไม่เคยชนะบ้างเลย ก็เลยได้พยายามรวมเรื่องที่มือใหม่ควรรู้ก่อนเล่น Poker มาฝากจร้า
Hand Ranges คิดอย่างไร ใช้ยังไง
ถ้าอยากเข้าใจเรื่อง Hand Ranges มาขึ้น ให้ลองฝึกคิดความถี่ในการออกไพ่ตามนี้ดูครับ
- ไพ่ Offsuit มีความถี่ 12 คอมโบ (เช่น AKo)
- ไพ่ Suited มีความถี่ 4 คอมโบ (เช่น AKs)
- Pocket pairs มีความถี่ 6 คอมโบ (เช่น 22, 33)
ยกตัวอย่างเช่น คู่ต่อสู้ 4-Bet มาตอน Pre-flop เราคิดว่า Ranges ของเขามีความเป็นไปได้ที่จะมี AA, KK, QQ, AKs, AKo โอกาสที่จะติดคอมโบก่อน Flop คือ 3 x 6 = 18 คอมโบที่เป็น Pocket Pairs และ 12 + 4 = 16 คอมโบที่ไม่ใช่ Pocket Pair
แล้ว Flop ก็ออก Q♥, 8♥, 2♣
จาก Flop ก็สามารถเดาโอกาสที่ Range ของเขาจะมี Top Pair หรือดีกว่ากี่ %
เมื่อ Flop ออก Q มาหนึ่งตัว หมายความว่ายังมีอีก 3 ใบในกอง และเขาก็จะมี Set Q ได้แค่ 3 Combo โอกาสที่จะมี Top Pair หรือสูงกว่าคือ 6(AA) + 6(KK) +3(QQ) = 15 Combo ส่วน AK ที่เขาอาจจะมีและไม่ติดอะไรเลย มี 16 Combo
ดังนั้นโอกาสที่อีกฝ่ายจะมี Top Pair หรือสูงกว่านี้คือ 15 / (15+16) = 48% ก็ลองดูท่าทีอีกฝ่ายแล้วกันว่าดูเซ็ง ๆ ไหม ถ้าใช่ก็มีโอกาสที่เราจะชนะแล้วล่ะ
แล้ว Combo กับ Blocker คืออะไร
Combo ในที่นี้จะหมายถึงไพ่ 2 ใบบนมือของผู้เล่นว่าสามารถเอามาจัดได้อีกรูปแบบ
Blocker หมายถึงไพ่ที่เราสามารถมองเห็นได้ทั้งไพ่บนมือ บนบอร์ด ค่า Blocker จะช่วยลด Combo ของอีกฝ่าย คือ สมมติว่าเราอ่าน Hand Rages ของอีกฝ่ายแล้วว่ามีโอกาสติด 16 Combo เมื่อหักกับ Blocker ที่มองเห็นก็จะเหลือสัก 10 Combo เป็นต้น จากนั้นเราก็เอา Combo ที่ได้ไปตัดสินใจเอาว่าจะ Bluff ดีหรือไม่
สรุปก็คือสองตัวนี้เป็นของคู่กันที่จะช่วยให้เราอ่านไพ่ โป๊กเกอร์ ของคู่ต่อสู้ได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
ตัวอย่างการใช้ Combo กับ Blocker
ไพ่บนบอร์ดมี K♣, J♣, 10♠, 2♣ สิ่งหนึ่งที่ต้องจำก็คือ Pocket Pair ทุกอันจะมี 6 Combo เสมอ และตอนนี้ K♣ อยู่บนบอร์ด ทำให้ Pocket K เหลือแค่ 3 Combo ส่วน JJ, 1010 และ 22 ก็เหมือนกัน เท่ากับว่า Combo ของไพ่ตองทั้งหมดบนบอร์ดจะเหลือ 3 x 4 = 12 Combo และเมื่อเรา Raise Pre-flop แล้วอีกฝ่าย Call อย่างเดียว เราพอจะเดาได้ว่าถ้าเขามี KK ก็น่าจะ 3-bet ทำให้มั่นใจได้ว่า KK ไม่ได้อยู่ในมือเขา เราก็ตัด Combo ที่อีกฝ่ายจะมี KK ออก แต่ถ้าคิดว่าเขาไม่น่าจะตาม C-bet เราด้วย 22 เราก็ไม่ต้องมาห่วงเรื่องตอง 2 เหมือนกัน
ถึงอย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งคิด Blocker และ Combo อยู่ตลอด ควรจะดู Action ของอีกฝ่ายด้วยว่าเป็นเช่นไรแล้วค่อยตัด Combo เอา
วิธีคิด Combo ของ Two Pair
เมื่อกี้อาจจะยากไปแต่ตอนนี้ง่ายขึ้นแล้วครับกับการนับ Combo ของ Two Pair คือเราจะเอาจำนวนไพ่เป้าหมาย 2 ใบที่ยังมองไม่เห็นไปคูณกัน สมมติว่าเราจะหา Combo ที่อีกฝ่ายมีโอกาสถือ KJ ตอนนี้มี K กับ J อย่างละ 3 ใบที่เราไม่รู้ว่าอยู่ไหน เมื่อเอามาคำนวณจะได้ 3 x 3 = 9 Combo ทีนี้หันไปดู Action อีกฝ่าย หากมีท่าทีว่าจะเล่น KJ ดอกเดียวกัน เราก็สบายใจได้เพราะมีโอกาสแค่ 3 Combo เท่านั้นคือ K♠J♠, K♥J♥ และ K♦J♦ ส่วน J10 ที่จะเล่นได้ด้วยดอกเดียวกันก็จะเหลือแค่ 2 Combo คือ J♥10♥ กับ J♦10♦
เห็นไหมล่ะครับว่าแค่เรามองไพ่บนบอร์ด แล้วลองคิดหยาบ ๆ ดู ก็จะรู้แล้วว่ามีโอกาสน้อยแค่ไหนที่อีกฝ่ายจะเล่นไพ่ดอกเดียว
วิธีคิด Combo ของ One Pair
ทีนี้มาคิด Combo แบบ 1 คู่กันบ้าง สมมติว่าเราจะหา Combo ที่อีกฝ่ายจะถือ AK ตอนนี้เราเห็นแล้วว่า K♣ อยู่บนบอร์ด เราก็เอาอีก 3 ใบที่เหลือไปคูณกับ A อีก 4 ใบที่มองไม่เห็น ก็จะได้ 3 x 4 = 12 คอมโบ แล้วก็เหมือนเดิมคือโอกาสที่อีกฝ่ายจะเล่น AK ดอกเดียวกันมีแค่ 3 Combo คือ A♠K♠, A♥K♥ และ A♦K♦
วิธีคิด Combo ของไพ่แข็ง
สำหรับไพ่แข็งอย่าง AQ เราก็ใช้หลักการเดียวกันคือเอาจำนวนไพ่ที่มองไม่เห็นมาคูณกัน จากตัวอย่างเรายังไม่เห็นไพ่ทั้ง 2 หน้า เท่ากับว่า 4 x 4 = 16 Combo สำหรับไพ่ AQ นั่นเอง
เล่นยังไงถ้าไปเจอ Flush Draw
สิ่งหนึ่งที่มือใหม่กังวลก็คือเจอ Flush แต่เมื่อเข้าใจเรื่อง Blocker กับ Combo มันจะช่วยให้สบายใจขึ้นเยอะ จากตัวอย่างเราเห็นแล้วว่า K♣ กับ J♣ หงายอยู่บนบอร์ด เราก็ตัด A♣K♣, A♣J♣, Q♣J♣, Q♣K♣ ไปได้เลยรวมถึง Combo ที่เกี่ยวข้องด้วย เพราะ K♣ กับ J♣ ที่หน้าที่ Blocker ให้แล้ว จึงเป็นไปได้ว่าอีกฝ่ายจะมี A♣Q♣ หรือ A♣10♣, Q♣10♣ ที่ Flush Draw อยู่ จากนั้นเราก็ต้องมาดู Action ของอีกฝ่ายเหมือนเดิมว่าเขาจะ Raise หรือ Call
ถ้าอีกฝ่ายตัดสินใจ Raise เฉพาะ Flush Draw 10♣9♣ ขึ้นไปแล้ว Call 4♣5♣, 5♣6♣, 6♣7♣, 7♣8♣, 8♣9♣ ก็ไม่ต้องกังวล เพราะมันเหลือแค่ 5 Combo เท่านั้นที่เป็นไปได้
ให้ไพ่บนมือมีส่วนร่วมด้วย
ในการหา Combo นอกจากไพ่บนบอร์ดแล้ว ไพ่ในมือก็สำคัญ สมมติว่าเรามี J♦ กับ 10♦ อยู่ในมือ แล้วเราอยากรู้ Combo ของ KJ ที่เป็นดอกเดียวกันของอีกฝ่าย เราก็ตัด K♣ กับ J♣ ออกไป จากนั้นมาตัด J♦ ของเราออกไปด้วย ดังนั้น Combo KJ Suited ที่เหลือก็จะมี K♥ J♥ กับ K♠ J♠ เท่านั้น
ส่วน J 10 ที่เป็นดอกเดียวกันก็คิดเหมือนกัน ตัด J♣ กับ 10♠ บนบอร์ดกับ J♦ 10♦ บนมือ ก็เหลือแค่ J♥ 10♥ เท่านั้น เห็นไหมครับว่าอีกฝ่ายเหลือโอกาสแค่นี้เอง
หาโอกาสชนะ Poker ง่าย ๆ ด้วยเทคนิคความน่าจะเป็น Poker และ เทคนิคโป๊กเกอร์ Pot Odds ที่จะนำคุณไปสู่การติดสินใจที่ไม่ผิดพลาด
มาถึงตรงนี้ใครทีอ่านครั้งแรกผมว่าน่าจะยังงงหน่อย ๆ ยอมรับครับว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจ Hand Ranges, Blocker และ Combo ตั้งแต่แรก ใครอ่านปุ๊บเข้าใจปั๊บแบบไม่มีพื้นผมว่าเกิดมาเพื่อ โป๊กเกอร์ แล้วล่ะ แต่มันก็ไม่ได้ยากเกินความเข้าใจ ขอเพียงแค่ใช้เวลากับมันทบทวนไปเรียนรู้ไป เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีดีแค่ช่วยให้เราคำนวณไพ่ออกมาได้อย่างแม่นยำขึ้น แต่มันยังช่วยลดความกดดันที่จะเกิดขึ้นในเกม Poker อีกด้วย ขอเพียงรู้เท่าทันเราก็ไม่ฟิชแล้วล่ะครับ