C-bet กลยุทธ์สุดร้ายที่มือใหม่เล่น Poker ไม่ควรพลาด
C-bet กลยุทธ์สุดร้ายที่มือใหม่เล่น Poker ไม่ควรพลาด หลังจากที่ได้ศึกษา โป๊กเกอร์ มาสักพัก 2 คนที่หลายคนน่าจะรู้จักหรือคุ้นเคยก็คือC-Betกับ Bluffing 2 พฤติกรรมที่ถ้าใช้ถูกที่ถูกเวลาจะช่วยพาเราเข้าไปในรอบลึก ๆ ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะการเล่นแบบทัวร์นาเม้นต์ ถึงอย่างนั้นถ้าหากเราใช้ผิดจังหวะมันก็สามารถหยุดเราไว้ได้ตั้งแต่ช่วง Pre-flop ได้เหมือนกัน และบทความนี้จะมาไขข้อข้องใจกันว่าแล้วเราจะต้องใช้อย่างไร ใช้ตอนไหน ถึงจะชนะในเกม โป๊กเกอร์
คุณอาจสนใจบทความนี้ คลิกอ่าน 3 คุณสมบัติ 6 เทคนิค พิชิต Pot-Limit Omaha Poker
C-betคืออะไร สำคัญแค่ไหนในการเล่น Poker
C-betหรือ Continuation Bet หรือที่คนไทยเราเรียกกันว่า “การยิงต่อเนื่อง” เป็นหนึ่งกลยุทธ์ที่นักเล่น โป๊กเกอร์ มักจะใช้กัน เพราะมันใช้ง่ายไม่ต้องคิดอะไรเยอะ แถมให้ผลลัพธ์ที่ดีอีกด้วย เหมาะกับผู้เล่นทุกระดับไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมือโปร วิธีการC-betจะเริ่มจากการที่เราเป็นคนเริ่ม Raise ตั้งแต่ช่วง Pre-flop หลังจากที่ Flop ออกมาแล้วก็วางเงิน (Bet) อีกครั้งโดยไม่ต้องไปสนใจว่าไพ่เราจะติดหรือไม่
ยกตัวอย่างเช่นเรา Raise Pre-flop ด้วย A♠, K♥ จากนั้น Flop ออก 4♦, 9♣, Q♥ จะเห็นว่าไพ่เราไม่ติดอะไรเลย ถึงอย่างนั้นเราก็จะ Bet อีกเพื่อขโมย Pot นี้ให้ได้ ที่กล้าทำก็เพราะมันมีโอกาสมากถึง 2/3 ที่คนอื่นก็จะไม่ติดไพ่อะไรเลยเหมือนกับเรา
คุณอาจสนใจบทความนี้ คลิกอ่าน สุดยอดวิธีเอาชนะ Poker ใน 4 ขั้นตอน
แล้วเราต้องยิงราคาไหนถึงจะเหมาะ
สิ่งสำคัญในการเล่น Poker ก็คืออย่าให้คนอื่นรู้ว่าเรากำลังทำอะไร หรือทำให้เข้าใจผิดได้ยิ่งดี ดังนั้นราคาที่ใช้ในการC-bet จึงควรเป็นราคาเดียวกับ Bluff เพราะนอกจากมันจะช่วยสร้างความสับสนจับทางได้ยากแล้วมันยังเป็นการบลัฟไปในตัว ถ้าโชคดีก็อาจจะมีคนหมอบเลยก็ได้ ถึงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นมันก็ยังช่วยลงความเสี่ยงของเรา ขณะเดียวกันมูลค่า Pot ก็เพิ่มขึ้น สำหรับราคาที่จะใช้เป็นมาตรฐานก็คือ 2/3 ของราคา Pot ซึ่งเป็นราคาที่ใหญ่พอที่จะกดดันให้พวกที่ไม่ติดไพ่อะไรยอมแพ้ได้ง่าย แล้วเวลาที่เราติดไพ่ดี ๆ ก็จะทำให้มีกำไรมากขึ้นจากมูลค่า Pot ที่ใหญ่ตามมาด้วย
ยกตัวอย่างเช่น ตอนนี้ราคา Pot อยู่ที่ 10 เหรียญ ราคาที่จะใช้C-bet ที่เหมาะสมคือ 7 เหรียญ อันที่จริงเราจะใช้ราคาต่ำกว่านี้ก็ได้ แต่มันก็จะส่งผลดีกับคู่ต่อสู้เหมือนกันเพราะพวกเขาจะมี Pot odds ที่ดี พวกที่รอติดไพ่ก็จะกล้า Call ตามมากขึ้น ส่วนการยิงด้วยราคาที่สูงกว่า Pot แค่อยากจะให้มีคนหมอบเยอะ ๆ อันนี้ก็เกินความจำเป็น ถ้าเป้าหมายของเราคือการกำจัดคู่แข่งออกจากโต๊ะ โป๊กเกอร์ เงินแค่ 2/3 ของ Pot ก็โอเคแล้ว
จังหวะไหนที่ไม่ควรC-betเด็ดขาด
แม้ว่าการ C-betจะเป็นการ Bluffing ไปในตัว ถึงอย่างนั้นก็มีช่วงที่เราไม่ควรจะยิงต่อเนื่องด้วยเช่นกัน หลัก ๆ ก็จะมีเหตุการณ์ที่ไม่ควร C-betดังนี้
- เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้เล่นสาย Calling Station
จากประสบการณ์แล้ว สำหรับผมไม่มีอะไรน่ารำคาญไปกว่าการเจอพวก Calling Station เพราะในบรรดาผู้เล่น 4 ประเภท พวกนี้จะทำให้เรา C-betได้ลำบากยิ่งกว่าเดิม จากพฤติกรรมที่ชอบ Call ดูไพ่ไปเรื่อย ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหมอบ เท่ากับว่าที่เรายิงไปนั้นแทบจะเสียเปล่า เนื่องจากมีพวก Calling Station ไม่กี่คนเท่านั้นที่จะยอมหมอบเพียงเพราะเจอC-Bet หรือ Bluff เข้าให้
- เมื่อมีผู้เล่นใน Pot มากเกินไป
ประสิทธิภาพของC-betนั้นจะแปรผันไปตามจำนวนผู้เล่นที่เหลืออยู่ใน Pot ดังนั้นหากโต๊ะ โป๊กเกอร์ ที่เราไปเล่นมีคู่แข่งมากเกินไป แทนที่จะC-betเพื่อ Bluff ตั้งแต่ต้น เปลี่ยนเป้าหมายเป็นเพิ่มมูลค่า Pot รอไว้ให้เราติดไพ่ดี ๆ ยังจะเข้าท่ากว่า
- เมื่อต้องเจอบอร์ดที่ Draw หนักมาก
Range ไพ่ ยังคงเป็นสิ่งที่เราต้องคิดถึงอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะของเราหรือของคู่แข่ง บางครั้งมันก็จะมีช่วงที่ Flop ออกมาทำให้อีกฝ่ายมีโอกาสติดไพ่มากกว่าเรา แน่นอนว่าหากพวกนั้นติดไพ่แล้วคงไม่มีทางที่จะทำให้ทิ้งไพ่แล้วลุกหนีไปง่าย ๆ แน่
เอาง่าย ๆ อย่างถ้าเราเจอบอร์ดที่ Draw หนักอย่าง 7♥, 8♥, 5♦ แล้วถ้าเราไม่ติดไพ่อะไรเลยก็ไม่ควรจะไปC-betให้เสียเปล่า ลองดูจากทรงไพ่จะเห็นว่ามีโอกาสที่คนอื่นจะตามเรามาด้วยไพ่ที่หลากหลายรูปแบบ ซึ่งมันรับมือได้ยากสุด ๆ
- เมื่ออยู่ในตำแหน่งที่แย่กว่า
ไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการได้เล่นในตำแหน่งที่แย่งแล้วล่ะครับ ต่อให้ได้ไพ่ดีแค่ไหนแต่ถ้าไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ใช่มันก็เอาชนะได้ยาก หลายคนเคยพยายามC-betในช่วง Post-Flop สุดท้ายก็ไปหมอบในรอบ Turn เพราะโดน Call ไล่หลัง แล้วถ้าไปเจอพวกจับตามองเราทุกการเคลื่อนไหวจะยิ่งทำให้C-betของเราไม่ได้ผล ดังนั้นถ้าคิดว่าตำแหน่งแย่ก็หมอบ ๆ ไปก่อนจะดีกว่า
สรุปก็คือการC-betไม่ได้มีกฎตายตัวอะไรมากมายมันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เราจะใช้ ซึ่งมันจะส่งผลถึงโอกาสยิงสำเร็จด้วย ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นกลยุทธ์ที่ควรจะฝึกไว้ให้ชำนาญ เพราะมันจะกลายเป็นอาวุธที่ทรงพลังเมื่อเราใช้ถูกจังหวะถูกเวลานั่นเอง
