5 Stack Size ที่ต้องเตรียมไว้ก่อนลุย Tournament Poker

5 Stack Size ที่ต้องเตรียมไว้ก่อนลุย Tournament Poker ใครที่ได้ศึกษาเรื่องShort Stack กับ Deep Stack ใน Cash Game อาจจะเริ่มคันไม้คันมืออยากจากลองไปลุยใน Tournament Poker กันบ้าง เพราะเดี๋ยวนี้มันเข้าถึงได้ง่าย คาสิโนออนไลน์ หลายที่ก็มีให้เล่น โป๊กเกอร์ แบบทัวร์นาเม้นต์กันแล้ว แต่ก่อนจะไปลุยกันผมอยากจะพาไปรู้จักกับStack Sizeทั้ง 5 ระดับที่จำเป็นต้องใช้ในการเล่นระดับทัวร์นาเม้นต์กันก่อนครับ เพื่อที่จะได้เตรียมตัวให้พร้อมไม่ต้องเอาเงินไปทิ้งแบบเปล่าประโยชน์

คุณอาจสนใจบทความที่เกี่ยวข้อง คลิก เทคนิคพื้นฐานที่จะช่วยให้ผ่าน Tournament Poker ในแต่ละช่วง

Stack Sizeสำคัญแค่ไหนในการเล่น Tournament Poker

ในการเล่น โป๊กเกอร์ ระดับทัวร์นาเม้นต์แค่เล่นเก่ง คิดไว ตัดสินใจแม่นยำยังคงไม่พอ ตราบใดที่ Stack ไม่หนาพอก็ยากที่จะเล่นได้ ดังนั้นสิ่งที่ต้องใส่ใจก่อนก็คือเรื่องของขนาดหน้าตักหรือStack Sizeนี่แหละครับ เราจะต้องรู้ก่อนว่า Stack เราประมาณนี้ มันอยู่ในความเสี่ยงระดับไหน แล้วจะเอากลยุทธ์ไหนมาใช้ จะเลือกไพ่แบบไหนมาเล่นดี เพื่อที่จะได้สร้างโอกาสชนะให้กับเราเพิ่มขึ้น อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงก็คือStack Size ของเรามันจะมีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ยิ่งถ้ามีการจ่าย Ante ด้วยจะทำให้เห็นได้ชัดว่า Stack เราเปลี่ยนไปมาก การสังเกตStack Size จึงเป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องที่ต้องใส่ใจ โดยทั่วไปแล้วจะมีการแบ่งไว้ 5 ระดับ คือ

1. โซนอันตราย

โซนนี้ส่วนใหญ่จะเป็น Shot Stack เสียมากกว่า เพราะขนาดหน้าตักจะอยู่ที่ประมาณ 10BB หากเป็นการเล่นใน Cash Game อาจไม่ค่อยมีปัญหา แต่พอมาอยู่ในการเล่น โป๊กเกอร์ ระดับทัวร์นาเม้นต์Stack Sizeนี้ถือว่าอันตรายมาก ๆ ทางเดียวที่จะรอดก็คือต้องทำ Double Up ให้ไวที่สุด อย่าว่าแต่ 10 BB เลยครับต่อให้มี 15BB ก็หืดขึ้นคอแล้ว เพราะทางเลือกทางรอดของเรามันน้อยจนไม่รู้จะน้อยยังไงแล้ว

สิ่งที่ไม่ควรเข้าไปเสี่ยงเป็นอย่างยิ่งเวลาที่เราตกในโซนอันตรายก็คือ การ Raise-Fold เพื่อที่จะขโมย Blind แต่ถ้ามีคนสวนด้วย 3-Bet เราจำเป็นต้องหมอบ มันไม่คุ้มกัน ดังนั้นควรจะคัดไพ่แล้วตัดสินใจไปเลยว่าจะ All-in หรือ Fold ซึ่งมันก็สามารถขโมยเงิน Blind กับ Ante มาได้พร้อมกัน

2. โซน 3-Bet Shove

หลังจากที่หลุดโซนอันตรายมาได้ เราจะมาตกในโซน 3-Bet Shove ช่วงที่Stack Size อยู่ระหว่าง 15-25BB พอมาถึงโซนนี้เราก็จะมีพื้นที่ให้วาดลวดลายกันมากขึ้น เช่น ถ้าเห็นว่ามีคน Open-Raise แล้ว Action ออกไปทาง Loose หน่อย ๆ เราซัด 3-Bet All-in ใส่เพื่อขโมย Pot ได้เลย

แต่การอยู่ในโซนนี้เราต้องคอยดูว่าStack Sizeอยู่ประมาณไหนแล้ว ถ้าสัก 25BB+ ก็มากพอที่จะให้ใช้ Raise-Fold แต่ก็ต้องระวังด้วยเอาแค่ครั้งสองครั้งพอ หรือถ้ามาลดมาอยู่เฉียด ๆ 15BB ก็ปรับกลยุทธ์เป็น All-in หรือ Fold แทน หรือจะใจเย็นนั่งรอโอกาสสวนด้วย 3-Bet Shove ก็ได้ ถึงอย่างนั้นก็ระวังความหัวร้อนก่อนจะหลุดโซนด้วย

3. โซนทั่วไป

สำหรับการเล่น Tournament Poker Stack Size26-35BB ก็มากพอที่จะช่วยลดแรงกดดันลงได้ไปพอสมควร ในโซนนี้มันจะทำให้เรามีโอกาสได้เล่นตุกติกขึ้นมาอีกสักนิด ที่สำคัญหาอยากทะลุไปถึงช่วงกลาง ๆ ของทัวร์นาเม้นต์ก็จำเป็นที่จะต้องมี Stack Sizeระดับนี้

ส่วนการเล่นเราจะสามารถเลือกไพ่มา Raise ได้เยอะกว่าสองโซนแรก สิ่งที่ต้องระวังก็คือการเล่น 3-Bet All-in ที่จะต้องมีไพ่ที่คิดว่าดีมาก ๆ เมื่อต้องสู้กับคนที่มีStack Size พอ ๆ กัน เพราะอีกฝ่ายเขาก็จะทำเช่นนี้เหมือนกัน แต่ถ้า Stack Sizeขยับไปแถว ๆ 35BB เราสามารถเอาไพ่ใหญ่ไป 3-Bet ล่อให้อีกฝ่าย Bluff All-in กลับมาได้เช่นกัน

4. โซนอิสระ

ถ้าอยากเล่น โป๊กเกอร์ แบบไม่ต้องคิดเยอะ เอาแบบสบายใจพี่ว่าล่ะก็ Stack Size ระดับ 36-50BB คือคำตอบครับ เพราะทางเลือกเราเยอะมากขึ้น ถึงอย่างนั้นเราก็ควรหาโอกาสเล่น Flop ให้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็ Bluff ให้มันน้อยลง แล้วก็ระวังเรื่อง Image ด้วยอย่าให้มันดู Loose เกินไป จำไว้ว่าหากท่าทีของเราอ่อนลงเมื่อใด ความเชื่อถือมันก็จะลดลงจนทำให้อีกฝ่ายกล้าที่จะ Raise All-in ใส่ แล้วทีนี้เราจะลำบากเอาเสียเอง

5. โซนนั่งชิล

ถ้าอยากสบายใจของแท้ก็ต้องโซนนี้เลยครับStack Sizeหนาขนาด 50BB+ คือมันแทบจะไม่มีอะไรให้กังวลได้อีกเลย จะ Raise จะ Bluff หนัก ๆ ปั่นให้อีกฝ่ายรู้สึกกดดันก็ได้ ยิ่งพวกที่มีStack Sizeระดับกลาง ๆ ถ้ามาชนกับพวก 50BB+ ยังไงก็มีโอกาสหมอบให้เราเยอะกว่า แล้วมันก็เป็นธรรมดาในการแข่งระดับ Tournament Poker ที่พวก Pro Player ทั้งหลายจะเอา Stack Sizeหนา ๆ ไปข่มใส่พวกStack Sizeที่บางจนกรอบ

จุดอ่อนของผู้เล่น โป๊กเกอร์ มือใหม่ก็คือมักจะเล่น Tight ทั้งที่Stack Sizeใหญ่ เพียงเพราะไม่อยากเสี่ยงเสียชิพ ซึ่งถือว่าอันตรายยิ่งกว่าพวกStack Size10BB เสียอีก ความจริงเราสามารถที่จะเลือกไพ่มาเล่นให้ได้หลากหลายยิ่งขึ้น มีโอกาสดู Flop บ่อย ๆ เล่นหลาย ๆ Pot เน้นไปทาง Aggressive เลย

ดังนั้นเวลาที่Stack Sizeเราหนา 50BB+ เราควรจะเสี่ยงเพื่อเพิ่ม Size ขึ้นไปอีก จะด้วยวิธีเล่นดุก็ได้ ปกติแล้วในวงการ โป๊กเกอร์ ไม่ค่อยมีใครอยากจะไปสู้กับพวก Deep Stack อยู่แล้ว มันเสี่ยงที่จะเล่นไม่จบทัวร์นาเม้นต์ ยิ่งถ้าเป็นช่วง Bubble บอกเลยว่านั่นแหละคือโอกาสทองของเราที่จะได้ไปกดอีกฝ่ายให้เละคามือ

คุณอาจสนใจบทความที่เกี่ยวข้อง คลิก 7 วิธีเผชิญหน้าเพื่อเป็นผู้ชนะใน Tournament Poker