เทคนิคพื้นฐานที่จะช่วยให้ผ่าน Tournament Poker ในแต่ละช่วง
เทคนิคพื้นฐานที่จะช่วยให้ผ่าน Tournament Poker ในแต่ละช่วง สิ่งที่ชวนดึงดูดใจให้นัก โป๊กเกอร์ มือใหม่อย่างเราเข้าไปเล่น Tournament Poker ก็คือเงินรางวัลก้อนโตสำหรับผู้ชนะ แม้ว่ามันจะมีค่าสมัครและความยุ่งยากระหว่างการเล่น ถึงอย่างนั้นมันก็คุ้มกับสิ่งที่จะได้รับกลับคืนมา แต่ว่าการที่เราจะไปต้องไปนั่งเล่นกันยาว ๆ 3-6 ชั่วโมง ก็มีความเสี่ยงไม่น้อยที่จะต้องไปตกรอบเพราะความหัวร้อนหรืออ่อนหัดในช่วงท้าย ๆ เทคนิคพื้นฐานจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่พอจะช่วยเรารอดจากวิกฤตในแต่ละช่วงของเกมได้ ว่าแต่มีอะไรบ้างไปดูกันเลยครับ
ช่วงที่ 1 : ช่วงบลายด์ ถูกที่สุด 25/50 Stack 100 BB
เป็นช่วงที่ไพ่ Pocket AA-22 จะมีบทบาทมากที่สุด แต่ก็มีปัจจัยอื่นร่วมด้วยคือ Flop ต้องมี AK, AQ, AJ, KQ, QJ, 10Js, J9s, Axs อีกทั้งราคาดูไม่ควรเกิน 3-4 BB เพราะถ้าเราติด Set, Tow Pair, Straight หรือ Flush แค่อย่างใดอย่างหนึ่งก็สามารถทำให้เราได้กำไรมากแล้ว การ All-in ในช่วงนี้ก็ทำได้แต่เราก็ต้องถือไพ่เหนือกว่าด้วย เช่น ถือ AK เอาไป All-in ใส่ AQ หรือ KK All-in QQ ก็จะปั่นกำไรได้เช่นกัน
สิ่งที่ต้องระวังก็คือการใช้ AJ, A10, A9-A2 เพราะมีโอกาสที่คู่ต่อสู้จะ Hit A (ถือ Ax แล้วติดคู่ A) เหมือนกับเราซึ่งต้องใช้ Kicker มาตัดสิน หากเราแพ้ถ้า Stack ไม่หายไปเยอะก็คือเกลี้ยงแน่ ๆ ดังนั้นจำไว้ว่าอย่าเอาไพ่แย่และทำให้เราเล่นยากตอนติด Top Pair ไปเล่น เพราะมันจะทำให้เราเสียหายหนักมากจากการที่หมอบ Top Pair ไม่ลงเมื่อต้องไปเจอกับอีกฝ่ายที่ Kicker ใหญ่กว่า
ช่วงที่ 2 : ช่วง Late Registration และ Add On
ช่วงหลังปิดรับสมัครล่าช้า และช่วงซื้อชิพเพิ่มครั้งสุดท้าย ถ้าเป็น Rebuy Tournament บอกเลยว่าความกดดันมันพุ่งมาก ๆ เพราะเราจะแพ้ไม่ได้ขณะที่บลายด์เองก็ขยับขึ้นไป 500/100 เรียกได้ว่าเป็นจุดแบ่งแยกระหว่าง Deep Stack กับ Short Stack ชัดมาก และเราก็ต้องดูหน้าตักตัวเองด้วยว่ามันหนาแค่ไหน ถ้าตอนนี้เราอยู่ใน Deep Stack ก็ไม่ยากแค่ Raise ด้วยไพ่ที่ดีและมี Range ที่กว้างขึ้นเช่น A5, A3s, 89s, 65s, J10, 109 ขณะเดียวกันก็ Steal Blind จาก Position ที่เหนือกว่าหรือล่าคนที่ค่า Vpip น้อย ๆ
ในการ Steal ต้องดูจังหวะให้ดีอย่าให้ถี่เกินไปจนโดนคนอื่นจับทางได้แล้วสวน 3-Bet หรือ All-in กลับมาในจังหวะที่เรากำลังจะ Steal Blind อยู่ แต่ถ้า Stack เราอยู่ระดับ Medium หรือ Small ก็เน้นเล่นไพ่ดีกับไม่ขโมยบลายด์ถี่ ๆ ก็พอ
ช่วงที่ 3 : ช่วง Bubble หรือก่อน In The Money
เรียกได้ว่าเป็นช่วงโอกาสทองของเราถ้าหากหน้าตักหนาระดับ Deep Stack ไม่ก็มีชิพมากสุดบนโต๊ะ เพราะตอนนี้บลายด์จะมีค่ามากที่สุด แล้วถ้าเรามีชิพเยอะน้อยคนที่จะกล้าชนด้วย จึงเหมาะแก่การ Steal Blind แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะไม่อยากเสี่ยงสู้กับ Chip Leader แต่ไม่ใช่กับพวก Stack 5BB ลงไปแน่ พวกนี้อยู่ในสภาพที่ไม่มีอะไรจะให้เสีย หรือเสียไปก็ไม่เป็นไร หากมีพวกนี้อยู่บนโต๊ะอาจต้องปรับมาเป็น Raise หรือ All-in เกือบทุกมือแทน
การเล่นโป๊กเกอร์ถึงแม้ว่าผู้เล่นถือไพ่ในมือดีๆ และจำทำให้ชนะได้ แต่คุณอย่าลืมนะว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องเร่งมือคือทำอย่างไรก็ได้ให้คู่ต่อสู้เรารีบหมอบหรือหลบไปซะ เราถึงอยากจะมาแนะนำคุณกับวิธีชนะ Poker ง่าย ๆ ด้วยการใช้ เทคนิค Blind Stealing ให้เป็นรับรองว่าช่วยคุณได้จริงๆ
Raise แล้วโดน All-in หรือ 3-Bet สวนกลับจะแก้ยังไง
ไพ่ที่เรา Raise ไปจะเป็นตัวบอกว่าเราควรแก้ไขด้วยวิธีไหน ถ้า Raise AK แล้วโดน Short Stack All-in กลับมา ให้ใช้วิธี All-in ทับคนที่เหลือไว้เพื่อไม่ให้พวกเขา Call ตาม Hand ของเรา เว้นแต่ว่าพวกเขาอยากจะเสี่ยงหนักด้วยการเทหมดหน้าตัก แต่ถ้าเป็น Raise Steal Blind ด้วยไพ่ J7 ถ้าอีกฝ่าย All-in ไม่เกิน 6BB ก็ Call แต่ถ้าเขามี Stack ระดับเราหรืออยู่แค่ช่วงกลาง ๆ แล้ว 3-Bet หรือ All-in มาให้หมอบเสียดีกว่า
ถ้าตอนนี้ชิพเราอยู่ที่ 150K และถือ AJ อยู่ ไปชนกับพวก 90K ที่ Blind 2/4K เราตัดสินใจ Raise 8K แต่โดนสวนด้วย 3-Bet 24K มีเพียงแค่ 3 หนทางให้ตัดสินใจคือ
- Call 3-Bet เพื่อดู Flop แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะ Hit หรือ Fold
- Fold เลยไม่ต้องเสี่ยง
- All-in สวนคืน
ในกรณีเช่นนี้อีกอย่างที่จะช่วยให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้นก็คือ Action กับ VPIP ของอีกฝ่ายที่ต้องดูว่าสไตล์การเล่นเป็นแบบไหน หากมองแล้วไม่รู้ว่าเขาเป็น Loose, Tight หรือ Aggressive ก็ให้หมอบไปก่อน เพราะมีความเป็นไปได้ที่อีกฝ่ายจะถือ AA, QQ, KK, JJ, AK หรือ AQ
แล้วถ้าเราเป็นฝ่าย Short Stack เสียเอง
สิ่งที่เราจะทำได้คือถ้าไม่ All-in ก็ Fold แต่การ All-in ก็ต้องเลือกไพ่ให้ดีด้วย อาจจะเป็นไพ่ AX, KQ, Kjs, Qjs, 10Js หรือ Pocket Pair การที่จะชนะหรือไม่หัวใจสำคัญอยู่ที่ไพ่ที่จะเอาไปวัด All-in เท่านั้น
การที่ Stack เราอยู่ในระดับ Medium ไม่ได้รับประกันว่าเรามีความเหนือกว่า ตรงกันข้ามยังต้องเล่นแบบระมัดระวังให้มากกว่าระดับ Short Stack เสียด้วยซ้ำ เพราะมันจะส่งผลในระยะยาว ถ้า All-in ด้วย Ax ต้องระวังอีกฝั่งจะมี Ax ด้วย ซึ่งตอนนั้นต้องใช้ Kicker เข้ามาวัด กับสถานการณ์อีกอย่างคือการที่เรา All-in ด้วย A10 A9 แล้ว Chip Leader Call AQ AJ แค่นี้ก็ทำให้เราตกรอบแบบไม่ได้เงินกลับบ้านแม้แต่แดงเดียวอีกด้วย
ช่วงที่ 4 : Final Table
หลังจากผ่าน In The Money มาได้สิ่งที่ Chip Leader ต้องควบคุมไว้ก็คืออย่าให้ตัวเองหัวร้อน ถ้าต้องไปเจอ Medium Stack แล้วเกิด Bad Beat ต้องรีบหยุดให้ได้ อย่าให้กระทบไปถึงมือต่อ ๆ ไป การที่เราจะได้เงินมากหรือน้อยก็อยู่ที่จุดนี้ด้วย สิ่งที่จะช่วยให้ได้เปรียบก็คือการ Steal Blind ให้บ่อยในตำแหน่งที่ดีกว่า หรือไพ่ที่เหนือกว่า
ส่วน Short Stack ยังคงสเตปเดิมไว้ไม่ Fold ก็ All-in ต่อให้เหลือ 3 คนสุดท้ายก็ยังใช้วิธีเดิมคือ All-in เข้าไป ผู้ชนะคือคนที่กล้าจะ All-in และ Call All-in เท่านั้น แต่อย่า All-in ด้วยไพ่คู่ต่ำ ๆ หรือ Ax ต่ำ ๆ ถ้าไม่แน่ใจให้ Check Fold จะช่วยให้เราจบ Tournament Poker ได้ดีกว่า
วันนี้เราจะมาพานักเล่นโป๊กเกอร์ไปเตรียมตัวและเตรียมความพร้อมก่อนที่จะไปลุย Tournament Poker เพราะเราไม่อยากให้คุณอยู่ๆก็นำเงินไปทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ งั้นเรามาทำความรู้จักกับ 5 Stack Size สำหรับ Tournament Poker กันเถอะ