เจาะลึกวิธีเล่น Texas Hold’em Poker อ่านจบออกรบได้เลย
เจาะลึกวิธีเล่น Texas Hold’em Poker อ่านจบออกรบได้เลย Texas Hold’em อาจถือได้ว่าเป็นไพ่ โป๊กเกอร์ แบบแรก ๆ ที่ทุกคนจะได้เล่นก่อนไพ่รูปแบบอื่น เนื่องจากมันเป็นไพ่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดใน คาสิโนออนไลน์ เพราะความเรียบง่าย กติกาไม่ซับซ้อน เวลาที่ใช้เล่นก็ไม่มากเกินไป ถึงอย่างนั้น Texas Hold’em ก็ไม่ใช่ไพ่ โป๊กเกอร์ ที่จะเล่นได้ง่าย ๆ เหมือนกับเกมไพ่อื่นที่ไม่ต้องใช้ความรู้อะไรมากมาย และวันนี้ผมจะพาทุกคนไปเจาะลึกวิธีเล่นไพ่ชนิดนี้กันครับว่ามันต้องเล่นยังไง แต่ละขั้นตอนมีความสำคัญขนาดไหน เอากันชนิดที่ว่าเจาะกันทุกรายละเอียดไปเลยครับ
จริงๆแล้ว นักเล่นโป๊กเกอร์ด้วยกันไม่จำเป็นต้องเป็นศัตรูหรือคู่ต่อสู้กันเสมอไปหรือตลอดเวลา นอกสนามเราอาจจะมีเพื่อนเป็นนักโป๊กเกอร์ด้วยกันก็ได้ เพราะบางทีการมีเพื่อนเป็นนักโป๊กเกอร์ด้วยกันอาจจะมาแชร์ความรู้ หรือเรียนรู้ไปด้วยกันก็ยังได้ ลองมาดูซิว่า 7 เหตุผลดี ๆ ที่ควรศึกษา Poker กันเป็นกลุ่ม มีอะไรบ้าง
กติกาพื้นฐานของ Texas Hold’em Poker
วิธีวางเดิมพัน
ผู้เล่นที่เป็น Big Blind และ Small Blind จะต้องวางเดิมพันก่อนเริ่มเล่น สำหรับการเล่นแบบทัวร์นาเม้นต์อาจมีการใช้ Antes เพิ่มเข้าไปในช่วงท้ายเกม สำหรับ BTN ที่ใช้สำหรับบอกตำแหน่งว่าผู้เล่นคนไหนเป็น Dealer จะเลื่อนไปหาผู้เล่นทุกคนตามเข็มนาฬิกาหลังจากที่จบการเล่นในแต่ละมือ ใครที่ได้ตำแหน่งนี้ถือว่าเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุด สำหรับตำแหน่ง Blind ทั้งสองก็จะถูกเลื่อนตามด้วยเช่นกัน
การเล่นเกมจะเริ่มจากผู้เล่นที่อยู่ซ้ายมือของ Dealer จะต้องวางเงิน Small Blind เป็นจำนวนครึ่งหนึ่งของราคาเกขั้นต่ำ จากนั้นผู้เล่นที่อยู่ถัดมาจะต้องวางเงิน Big Blind เท่ากับราคาเกขั้นต่ำ สำหรับการเล่นแบบทัวร์นาเม้นต์ราคา Blind และ Antes จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อถึงเวลาที่กำหนด ส่วนการเล่นในแต่ละรอบผู้เล่นที่เป็น Small Blind จะได้เป็นคนเล่นก่อนเสมอ
เมื่อเกมดำเนินไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเหลือผู้เล่นเพียง 2 คน จะถูกเปลี่ยนไปใช้กฎ Heads up ที่จะทำให้เงื่อนไขการวางเงิน Blind เปลี่ยนไป คือ ผู้เล่นที่อยู่ตำแหน่ง Dealer จะเป็นฝ่ายวาง Small Blind ส่วนอีกคนจะต้องวาง Big Blind และในการเล่นช่วง Pre-flop ผู้เล่น Dealer จะได้สิทธิเล่นก่อน แต่ในรอบ Post-flop จะได้เล่นทีหลังจนจบมือ ในการวางเดิมพันจะแตกต่างกันไปตามรูปแบบของเกม หลัก ๆ แล้ว Texas Hold’em Poker จะแบ่งไพ่ออกเป็น 3 แบบ คือ Limit hold’em, No-limit hold’em และ Pot-limit hold’em
- Limit hold’em ถือได้ว่าเป็น โป๊กเกอร์ ที่นิยมเล่นกันมากใน คาสิโนออนไลน์ เนื่องจากสามารถทำการเกทับได้ในช่วง Pre-flop และ Flop ในราคาที่เท่ากับราคา Big Blind เรียกว่า Small Bet สำหรับรอบ Turn และ River สามารถเกทับได้ในราคาเท่ากับ 2 เท่าของราคา Big Blind เรียกว่า Big Bet
- No-limit hold’em เป็นที่นิยมเล่นกันในการแข่งขันแบบทัวร์นาเม้นต์ที่มีการฉายทางทีวี รวมไปถึงทัวร์นาเม้นต์ขนาดใหญ่อย่าง เวิร์ดซีรีส์ออฟโป๊กเกอร์ ลักษณะเด่นคือผู้เล่นจะเกทับในราคาเท่าใดก็ได้ แต่จะต้องไม่น้อยกว่าเดิมพันขั้นต่ำที่กำหนดไว้ ซึ่งเงินขั้นต่ำจะมีราคาเท่ากับราคาเกก่อนหน้านี้ สมมติว่า Big Blind ราคา 2 เหรียญ มีคนเกทับมา 6 เหรียญ รวมแล้วได้ 8 เหรียญ ถ้าเราจะ Raise ก็ต้องวางอย่างน้อย 6 เหรียญ แต่ถ้ามีการเทหมดหน้าตัก (All-in) คนที่เกทับคนแรกจะกลับมาเกทับอีกไม่ได้แล้ว
- Pot-limit hold’em ผู้เล่นจะสามารถเกทับได้ไม่เกินราคาเงินกองกลาง ณ ขณะนั้น
นอกจากนี้ คาสิโนออนไลน์ บางแห่งยังอนุญาตให้ผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่ง UTG สามารถเลือกได้ว่าจะวางเงินพิเศษที่เรียกว่า Straddle หรือไม่ ปกติแล้วเงินนี้จะมีราคาเป็น 2 เท่าของราคา Big Blind ทำให้ผู้เล่นสามารถสวมรอยเป็น Big Blind และเลือกได้ว่าจะเกทับหรือไม่ และใน Hold’em Poker บางเกมก็มีรายละเอียดเกี่ยวกับ Straddle ที่แตกต่างกันไป
วิธีเล่น Texas Hold’em Poker
ทันทีที่สับไพ่เสร็จผู้เล่นแต่ละคนจะได้รับแจกไพ่คนละ 2 ใบ โดยไพ่จะถูกคว่ำหน้าเอาไว้ เริ่มจากผู้เล่นตำแหน่ง Small Blind จะได้รับแจกไพ่ก่อนและสิ้นสุดที่ Dealer หน้าที่ของผู้เล่นแต่ละคนคือห้ามไม่ให้ผู้เล่นคนอื่นเห็นไพ่ของตัวเอง ในกรณีที่มีการแจกไพ่พลาด เช่น หงายไพ่ให้ทุกคนเห็น หรือไพ่ติดกันทำให้ผู้เล่นได้ไพ่มากกว่าสองใบ คนแจกไพ่จะนำไพ่ที่หงายกลับมาสับและตัดไพ่ใหม่อีกครั้ง หรือไม่ก็แจกไพ่ต่อไปจนจบครบทุกคนแล้วค่อยเอาไพ่บนสุดของสำรับที่เหลืออยู่มาเปลี่ยนแทนไพ่ที่แจกพลาด แล้วเอาไพ่ดังกล่าวไปใช้เป็นไพ่สำหรับเบิร์นทิ้ง แต่ถ้ามีการแจกไพ่พลาดมากกว่า 1 ใบ ต้องเริ่มแจกไพ่ใหม่ทั้งหมด
หลังจากที่ทุกคนได้รับไพ่แล้วจะเข้าสู่ช่วง Pre-flop โดยผู้เล่นที่อยู่ตำแหน่ง Small Blind จะได้เล่นก่อน รอบการเล่นจะดำเนินไปจนกระทั่งผู้เล่นทุกคนหมอบ, เทหมดหน้าตัก หรือไม่มีใครเกทับ อย่างไรก็ตามผู้เล่น Big Blind และ Small Blind ที่ถูกบังคับให้วางเดิมพันตั้งแต่ช่วง Pre-flop จะสามารถเลือกดู Flop ได้ฟรี ๆ รวมถึงการเกทับได้อีกด้วย ถ้าหากผู้เล่นทุกคนต่างยินดีที่จะเล่นในราคา Blind และไม่มีการเกทับ
เมื่อผ่านช่วง Flop ไปแล้ว รอบที่สามจะมีการหงายไพ่ Turn ออกมา และตามด้วยไพ่ River ในรอบสุดท้าย ซึ่งผู้เล่นจะต้องมาวัดกันว่าไพ่ใครใหญ่กว่ากันว่าด้วยเรื่องการเบิร์นไพ่ ปกติแล้วคนแจกไพ่จะทำการทิ้งไพ่เปล่า ๆ 1 ใบในช่วงก่อนเปิดไพ่ Flop, Turn และ River เสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เล่นเห็นหลังไพ่ใบต่อไป ซึ่งจะทำให้คาดเดาได้จากตำหนิหลังไพ่รวมไปถึงกลโกงที่แฝงอยู่
วิธีวัดไพ่เพื่อหาค่าความแข็งแกร่ง
ทันทีที่จบรอบ River ไปแล้วผู้เล่นที่เหลืออยู่ทุกคนจะต้องเปิดไพ่ของตนเอง เพื่อวัดความแข็งแกร่ง โดยใช้ไพ่ 2 ใบในมือจัดชุดรวมกับไพ่กองกลางอีก 5 ใบ เพื่อหา 5 ใบที่ดีที่สุด ซึ่งในการจัดชุดไพ่ผู้เล่นอาจต้องใช้ไพ่ในมือทั้งหมด หรือแค่ใบเดียว หรือจะไม่ใช้สักใบก็ได้เช่นกัน
กรณีที่ผู้เล่นได้มือดีที่สุดจากไพ่กองกลางทั้งหมด 5 ใบ อาจต้องมีการแบ่งเงินจาก Pot ถ้าหากว่าผู้เล่นคนอื่นสามารถใช้ไพ่กองกลางสร้างมือดีแบบเดียวกับเราได้ โดยเงินจาก Pot จะถูกแบ่งให้คนละเท่า ๆ กัน ส่วนเงินที่เหลือจะถูกส่งให้กับผู้เล่นคนแรกที่อยู่ถัดจาก Dealer และเวียนไปตามเข็มนาฬิกา
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้เล่นต้องประเมินค่าไพ่ของตัวเองอยู่เสมอ หากว่าใช้ไพ่น้อยกว่า 5 ใบ เช่น Two Pair หรือ 3 of a kind จะต้องใช้ Kicker มาตัดสิน ดังนั้นลำดับแต้มจึงมีความสำคัญ เพราะ Kicker ใน Texas Hold’em Poker จะไม่วัดระดับสูงต่ำจากไพ่ดอกเดียวกัน
ระดับความแข็งแกร่งของไพ่ โป๊กเกอร์
สามารถเรียงจากต่ำไปสูงได้ดังนี้
- Highcard (ไพ่สูง) ไพ่พื้นฐานโดยดูจากแต้มหน้าไพ่ต่ำสุดคือ 2 สูงสุดคือ A
- Pair (ไพ่คู่) ไพ่ 2 ใบที่มีแต้มเท่ากัน
- Two Pair (ไพ่ 2 คู่) ไพ่ 2 ใบที่มีแต้มเท่ากัน จำนวน 2 คู่
- 3 of a Kind (ไพ่ตอง) ไพ่ 3 ใบที่มีแต้มเท่ากัน
- Straight (ไพ่เรียง) ไพ่ 5 ใบที่มีแต้มเรียงกัน (ไพ่ A จะต้องอยู่หน้า 2 หรืออยู่หลัง K)
- Flush (ไพ่ดอกเดียว) ไพ่ 5 ใบที่มีดอกเดียวกัน
- Full House ไพ่ตองและไพ่คู่ในชุดเดียวกัน
- Four of a Kind ไพ่ 4 ใบที่มีแต้มเท่ากัน
- Straight Flush ไพ่ 5 ใบที่มีแต้มเรียงกันและมีดอกเดียวกัน
- Royal Flush ไพ่เรียง 5 ใบของ 10, J, Q, K, A ที่มีดอกเดียวกัน ถือเป็นไพ่ใหญ่ที่สุด
ตัวอย่างการจัดชุดไพ่เพื่อให้ได้มือที่ดีที่สุด
เพื่อความเข้าใจง่ายผมจะยกตัวอย่างการจัดชุดไพ่ดังนี้ครับ
ไพ่กองกลาง 4♣, K♠, 4♥, 8♠, 7♠
ผู้เล่นคนที่ 1 A♣, 4♦
ผู้เล่นคนที่ 2 A♠, 9♠
ผู้เล่นคนที่ 3 K♥, K♦
ผู้เล่นคนที่ 4 5♦, 6♦
จากนั้นผู้เล่นแต่ละคนจะจัดชุดไพ่ในมือเข้ากับไพ่กองกลางเพื่อให้ได้มือดีที่สุด จะได้ดังนี้
ผู้เล่นคนที่ 1 ได้ตอง 4 (4♣, 4♥, 4♦) โดยมี A♣ กับ K♠ เป็น Kicker
ผู้เล่นคนที่ 2 ได้ Flush (A♠, K♠, 9♠, 8♠, 7♠)โดยมี A♠ เป็น Kicker
ผู้เล่นคนที่ 3 ได้ Full House (K♠, K♥, K♦ + 4♣, 4♥)
ผู้เล่นคนที่ 4 ได้ Straight (8♠, 7♠, 6♦, 5♦, 4♥)
ในเกมนี้ไพ่ Full House ของผู้เล่นคนที่ 3 ถือว่าเป็นมือดีที่สุดและเป็นผู้ชนะ รองลงมาคือไพ่ Flush ของผู้เล่นคนที่ 2 อันดับสามเป็นไพ่ Straight ของผู้เล่นคนที่ 4 และปิดท้ายด้วยไพ่ตองของผู้เล่นคนแรก
Kicker ใช้อย่างไร เสมอ จะเกิดขึ้นตอนไหน
สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยในการเล่น โป๊กเกอร์ แบบ Texas hold’em ก็คือการเสมอกัน ทำให้ต้องมีการใช้ Kicker มาช่วยตัดสิน ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะรูปแบบเกมที่มีการใช้ไพ่กองกลางจึงทำให้ไพ่ในมือของผู้เล่นไม่ต่างกันมากนัก สำหรับตัว Kicker ที่จะนำมาใช้กันมาจากไพ่ 1 ใน 5 ใบของมือที่ดีที่สุด แต่ไพ่ตัวนี้จะไม่ส่งผลต่อระดับความแข็งแกร่งของมือ
และจากนี้ไปจะเป็นสถานการณ์ตัวอย่างที่จะช่วยให้เข้าใจเรื่อง Kicker ง่ายขึ้นครับ
ไพ่กองกลาง 8♠, Q♣, 8♥, 4♣
ผู้เล่นคนที่ 1 K♥, Q♠
ผู้เล่นคนที่ 2 Q♥, 10♦
จากตอนนี้จะเห็นได้ว่าผู้เล่นคนที่ 1 มือที่ดีที่สุดคือ Two Pair (Q♠, Q♣, 8♠, 8♥, K♥) โดยมี K♥ เป็น Kicker ส่วนผู้เล่นคนที่ 2 มี Two Pair เช่นกัน (Q♥, Q♣, 8♠, 8♥, 10♦) โดยมี 10♦ เป็น Kicker เมื่อวัดกันแล้วผู้เล่นคนที่ 1 จะเป็นฝ่ายชนะเพราะมี Kicker ที่ใหญ่กว่า แต่ตอนนี้เกมยังดำเนินไปถึงแค่รอบ Turn เท่านั้น
ทันทีที่ไพ่ River ออกมาเป็น A♠ ซึ่งตอนนี้ทั้งคู่ยังคงจัดไพ่มือเดิมคือต่างฝ่ายต่างถือ Two Pair การเกิดใหม่ของ A♠ จะทำให้ K♥ ของผู้เล่นคนที่ 1 หมดสภาพการเป็น Kicker ฝั่งผู้เล่นคนที่ 2 ก็เช่นกัน ตอนนี้เท่ากับว่าทั้งสองมี Kicker ตัวเดียวกันก็คือ A♠ ที่เกิดใหม่ ผลที่ตามมาก็คือเกมนี้จะเสมอกัน แล้วเงินใน Pot จะถูกแบ่งให้คนละครึ่ง
แต่ถ้าไพ่ River ออกมาเป็น J หรือต่ำกว่านี้ Kicker ของผู้เล่นคนที่ 1 ก็จะยังถือว่าใหญ่กว่า ยกเว้นการเกิดของไพ่ 8 หรือ Q ที่จะทำให้มือที่ถือกลายเป็น Full House และถ้าออกไพ่ 10 ก็จะทำให้ผู้เล่นคนที่ 2 มีคู่ที่สองใหญ่กว่าคือ 10, 10
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับบทความนี้ แม้ว่าจะยาวไปสักหน่อยแต่ก็ทำให้เข้าใจการเล่น โป๊กเกอร์ ในแบบฉบับ Texas hold’em มากขึ้นใช่ไหมครับ สำหรับใครที่ยังมึน ๆ งง ๆ กับคำศัพท์บางตัวที่ใช้ในบทความนี้ล่ะก็ อย่าลืมอ่านศัพท์ความรู้ที่อยู่ข้างใต้บทความนี้ด้วย เพราะมันไม่ใช่แค่จะทำให้เข้าใจเนื้อหาการเล่น โป๊กเกอร์ ง่ายขึ้นเท่านั้น แต่ว่าไปคุยกับใครก็รู้เรื่องครับ
สำหรับใครที่เล่นโป๊กเกอร์แบบ Taxas hold’em มาเยอะแล้วรู้สึกเบื่อ มาทางนี้ดีกว่าเพราะวันนี้เรามีเกมโป๊กเกอร์ในแบบ Pot-limit Omaha Poker เกมดีที่ต้องลอง มานำเสนอ เผื่อจะได้ลองเปลี่ยนรสชาติกันดูบ้างไง
ศัพท์ควรรู้
Antes เงินนอกเหนือจากเงิน Blind ซึ่งผู้เล่นจะต้องวางก่อนเริ่มเล่นในแต่ละมือ มักจะใช้ในช่วงท้ายของการเล่นแบบทัวร์นาเม้นต์
BTN ย่อมาจาก Button หมายถึงเหรียญเล็ก ๆ ที่วางหน้าผู้เล่นเพื่อระบุตำแหน่ง Dealer และจะมีการเวียนไปหาผู้เล่นคนอื่นตามเข็มนาฬิกา ถือว่าเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุด
Heads up การดวลแบบตัวต่อตัว
Pre-flop การเล่นในช่วงก่อน Flop จะออก โดยผู้เล่นจะต้องตัดสินใจจากไพ่ 2 ใบในมือเท่านั้นว่าจะเล่นด้วยตัวเลือกไหน ได้แก่ Call, Raise, Fold ซึ่งลำดับการเล่นจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เล่น
Post-flop การเล่นในช่วงหลังจาก Flop ออกแล้ว
Limit hold’em ไพ่ Hold’em ที่มีการจำกัดราคาเก
No-limit hold’em ไพ่ Hold’em ที่ไม่มีการจำกัดราคาเก
Pot-limit hold’em ไพ่ Hold’em ที่มีการจำกัดราคาเกไม่เกินขนาด Pot