สูตรเด็ด Short Stack Poker ที่จะปั่นกำไรใน Cash Game
สูตรเด็ด Short Stack Poker ที่จะปั่นกำไรใน Cash Game ใครที่เล่น โป๊กเกอร์ อยู่แล้วคงจะคุ้นเคยกับ Cash Game เป็นอย่างดี เพราะมันหาเล่นได้ง่ายตาม คาสิโนออนไลน์ ไม่ต้องเสียเวลานั่งเล่นนาน ๆ เหมือนพวก Tournament ถึงอย่างนั้นมันก็มีข้อเสียตรงที่เราจะโดน Rake หั่นกำไรที่ควรได้ไปเสียทุกครั้งที่เล่นจบมือ แต่มันก็มีวิธีที่จะช่วยทำกำไรได้เช่นกันนั่นคือการทำ Short Stack ว่าแต่ทำอย่างไร เล่นยากไหม ไปดูกันครับ
เรื่องพื้นฐานอีกเรื่องนึงที่ไม่อยากให้ผู้เล่นโป๊กเกอร์มองข้ามหรือไม่สนใจนั่นคือวิธีอ่านไพ่ เราจึงได้หยิบยกเรื่องนี้มาเพื่อให้คุณได้รู้ เทคนิคอ่านไพ่โป๊กเกอร์ Hand Ranges, Combo, Blocker มามาฝากกันนะ
Short Stack คืออะไร
ปกติแล้วการเล่นแบบ Short Stack จะหมายถึงการเล่นด้วยหน้าตักน้อย ๆ ระดับไม่เกิน 20 Big Blind เลยทำให้ไม่ค่อยนิยมเล่นกันมากนักเพราะทำกำไรได้น้อย หากใครที่คิดจะทำกำไรด้วยวิธีนี้อย่างน้อยก็ต้องมีสัก 20-60 Big Blind ล่ะครับ
จุดแข็งจุดอ่อนของ Short Stack Poker ที่ต้องรู้
การเล่น โป๊กเกอร์ ด้วย Shot Stack จะมีข้อดีหรือจุดแข็งตรงที่เราสามารถ All-in (เทหมดหน้าตัก) ได้บ่อยเท่าที่ต้องการ และมันจะได้ผลดียิ่งขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับ 3bet (เกทับคนที่เกมาก่อนหน้า) และสามารถยิงให้จบที่รอบ Flop หรือ Turn ได้เร็วขึ้น เพราะหากหลุดเข้าไปถึงรอบ River จะทำให้ Shot Stack ทำงานได้ลำบาก
ถึงอย่างนั้น Shot Stack ก็ยังมีข้อด้อยตรงที่มันไม่มีความน่ากลัวเอาเสียเลย การ Bluff ก็ติดยากกว่าการเล่นด้วย Stack ใหญ่ ๆ ไม่เหมาะกับการรอไพ่ Draw ที่ราคาแพง เพราะมี Value น้อยมาก ดังนั้นใครที่คิดว่าจะนั่งนานโดยใช้เทคนิคนี้ แนะนำว่าอย่าเลยครับ ได้ไม่คุ้มเสียแน่นอน การทำ Double Up เป็นหนทางเดียวเท่านั้นที่จะช่วยให้เราสามารถเอา Short Stack ไปชนกับพวก Stack ที่ใหญ่กว่าได้ โดยมีเงื่อนไขว่าหาก Double Up แล้วให้รีบลุกออกจากโต๊ะไปเลย แม้จะครั้งเดียวก็ตาม
ยกตัวอย่างเช่น เรานั่ง Stack 40 Big Blind มีโอกาสชนะ 50% ต่อการเทหมดหน้าตัก 1 ครั้ง ขณะที่โต๊ะเรามีคนเล่น Stack ระดับ 500 Big Blind เท่ากับว่าหากทั้งสองฝ่ายเทหมดหน้าตักใส่กัน ถ้าเขาพลาดจะยังเหลือ Stack อยู่ 460 Big Blind แต่ถ้าเราพลาดคือหมดตัวกันไปเลย แต่ถ้าสมมติว่าฝีมือเรากับเขาต่างพอ ๆ กัน เรามาดูกันซิว่าจะต้อง All-in แล้วชนะกันกี่ครั้งถึงจะทำให้ Stack เขาหมดลงได้
รอบที่ 1 ฝั่งเรา 40BB ฝั่งเขา 500BB โอกาสชนะทุกครั้งคือ 50% ผลคือเราชนะ Stack เราเพิ่มเป็น 80BB ฝั่งเขาเหลือ 460BB
รอบที่ 2 ฝั่งเรา 80BB ฝั่งเขา 460BB โอกาสชนะทุกครั้งคือ 25% ผลคือเราชนะอีกแล้ว Stack เราเพิ่มเป็น 160BB ฝั่งเขาเหลือ 380BB
รอบที่ 3 ฝั่งเรา 160BB ฝั่งเขา 380BB โอกาสชนะทุกครั้งคือ 12.5% ผลคือเราชนะอีก Stack เราเพิ่มเป็น 320BB ฝั่งเขาเหลือ 220BB
รอบที่ 4 ฝั่งเรา 320BB ฝั่งเขา 220BB โอกาสชนะทุกครั้งคือ 6.25% ผลคือเรายังชนะอยู่ Stack เราเพิ่มเป็น 540BB ฝั่งเขาเหลือ 0BB
จากข้อมูลตรงนี้เราจะเห็นว่าโอกาสที่เราจะ All-in แล้วชนะทุกครั้งจะลดลงไปครึ่งหนึ่งของรอบก่อนหน้า แน่นอนว่าน้อยคนที่จะชนะติดกันทุกครั้ง ผมถึงบอกว่าหากชนะแค่ครั้งสองครั้งก็เกินพอ แล้วให้รีบลุกหนีไปเล่นโต๊ะอื่นเลย
Short Stack Poker เล่นสไตล์ไหนถึงจะได้ผล
เห็น Stack น้อยแบบนี้บางคนอาจคิดว่าต้องเล่นแบบ Tight เท่านั้น แต่ความจริงแล้วเราจะเล่น Loose ก็ได้ Shor Stack มีเป้าหมายหลักคือการทำกำไรในระยะสั้น ไม่ปล่อยให้เกมยืดเยื้อจนเกินไป เน้นไปที่การ All-in ไม่ก็ Fold เลยทำให้ไม่ต้องไปกังวลว่าจะเจอไพ่เล่นยากอย่าง JJ เหมือนกับพวก Deep Stack ที่เน้นกำไรในระยะยาว นอกจากนี้ Short Stack ยังสามารถจบที่ Pre-flop และ Flop ด้วยไพ่ AA, KK, QQ และ AK ดีกว่าอีกด้วย
ที่สำคัญเมื่อเล่น Short Stack คล่องโอกาสที่จะเล่นพลาดก็น้อยลง จึงเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะกับผู้เล่น โป๊กเกอร์ มือใหม่ หรือคนที่ไม่ค่อยถนัดการเล่น River ขอเพียงแค่ปั้น Pot รอจบที่ Turn ก็พอ
มือไหนบ้างที่ควรเอาไปเล่น Short Stack Poker
จะว่าไปแล้วเรื่อง Hand ที่จะใช้เล่น Short Stack ก็ไม่ได้มีกฎตายตัว หากเป็น Hand ที่ถนัดก็สามารถพาไปลุยได้หมด แต่หลัก ๆ ที่ควรเล่นก็จะมี AA, KK, QQ, AK, AQ, KQ, QJs, QJ, 10J และตระกูล Pocket AA-22 ทุกชนิด
แต่ถ้าคิดจะ Call 3Bet ควรจะใช้ไพ่ที่มีโอกาส Crack คู่ AA หรือ KK สูง ๆ เช่น KQs, 10Js Pocket ต่าง ๆ 89s 65s เป็นต้น หากว่าได้ K9, A7, A8, A9, A10, Q3s ให้หมอบซะ แล้วถ้าเจอ 3Bet กลับมาก็ไม่ควร Call บ่อยเว้นแต่จะมี Hand ที่คิดว่าดีกว่า All-in สวนกลับ ซึ่งเทคนิคนี้เป็นการดึงจุดแข็งของ Short Stack มาใช้เพื่อให้เกิด Double Up ง่ายขึ้นขึ้น
Short Stack บลัฟใครได้บ้าง
เมื่อ Stack ใหญ่คือก้างขวางคอ อาจสงสัยกันว่าแล้วแบบนี้จะบลัฟได้มั้ย ใครล่ะที่มีโอกาสจะติดบลัฟเรา หลัก ๆ ก็จะมีพวก Tight กับพวก Good Player สองกลุ่มเขาจะมีความระแวงอยู่ในตัว และคิดว่าถ้า Short Stack บลัฟ น่าจะมีดีอะไรอยู่ในมือแน่ ยกตัวอย่างเช่น
ฝั่งเราถือ QJ ไปดวลกับ Tight ที่มี AT ขณะที่ Flop ออก K 7 4 Rainbow ถ้าหากว่าเรามี Tight Image ให้เขาสัมผัสได้ บวกกับเป็นฝ่าย Open Raise Pre-flop อาจทำให้เขาคิดว่าเราถือ KQ หรือ AK มากถึง 65% แล้วเขาก็จะหมอบไปเอง แต่ถ้าไปเจอคนที่พอจะอ่านทางออกนิดหน่อย อย่างมากก็แค่ Call ดู Action ของเราในช่วง Turn ถ้าเรายิงซ้ำช่วงนี้ แล้วบอร์ดไม่ออกไพ่อะไรให้อีกฝ่าย หรือออก K แทน มีโอกาส 90% ที่จะหมอบให้กับเรา
ถึงอย่างนั้นก็มีผู้เล่นบางจำพวกที่ไม่ควรบลัฟให้เสียเวลาได้แก่
- Fish ปกติแล้วพวกนี้จะไม่หมอบในการ C-Bet แค่ครั้งเดียว แล้วฟิชส่วนใหญ่มักจะมีไพ่ที่คาดไม่ถึงใช้ Call ตามอีกครั้งสองครั้ง
- Loose & Aggressive พวกนี้จะบลัฟมั่วไม่ได้เป็นอันขาด เพราะพร้อมจะ Raise ใส่ทันที
- Pro Player คือกับคนเก่งระดับนั้นผมว่าอย่าไปเสียเวลาด้วยเลย ยังไงเราก็แพ้
แต่ถ้านั่งสักพักแล้วยังไม่รู้ว่าใครเป็นใคร เล่นสไตล์ไหน ให้รีบลุกเลย นั่นเพราะว่าเราอาจเป็นฟิชที่สุดเสียเอง
Short Stack Poker กินเงินใครได้บ้าง
หลัก ๆ แล้วมีคนที่พอจะเป็นเหยื่อให้เราได้ 3 กลุ่มก็คือ
- Fish พวกนี้จะ Call แบบไม่คิดหน้าคิดหลังจนถึงรอบ River แล้วก็แพ้ในที่สุด
- Loose Player อันนี้ชอบ Bet หนัก แต่ก็ไม่ได้มีหลักการหรือกลยุทธ์อะไรรองรับ ขอแค่เราใจถึงต่อให้ไพ่แย่แต่จังหวะมันได้ ก็มีโอกาสชนะเหมือนกัน
- Tilted Player พวกนี้จะหัวร้อนขั้นสุดเวลาที่เริ่มเสีย Pot ใหญ่ ดูง่าย ๆ จากการ Raise มั่ว 3Bet มั่ว Call กระจาย
สำหรับนักเล่นโป๊กเกอร์ที่เงินทุนหนา หน้าตักเงินหนักๆ และกำลังมองหารูปแบบเกมโป๊กเกอร์ที่ตื่นเต้นเร้าใจกว่าเดิม แนะนำOpen-face Chinese Poker เกมโป๊กเกอร์ ที่คุณเมื่อคุณลองแล้วอาจจะไม่กลับไปเล่นแบบเดิมๆอีกเลยก็ได้