รวมวิธีเล่น Poker 3 แบบ เล่นอย่างไรไม่ไก่ชัวร์
รวมวิธีเล่น Poker 3 แบบ เล่นอย่างไรไม่ไก่ชัวร์ ถ้าจะให้นึกถึง โป๊กเกอร์ เชื่อว่าทั้งมือเก่ามือใหม่อาจจะคุ้นเคยกับการเล่นแบบ Hold’em เสียมากกว่า เพราะมันเป็นรูปแบบที่นิยมเล่นกันมากที่สุด จนทำให้หลายคนเข้าใจผิดคิดว่า โป๊กเกอร์ นั้นมีแค่แบบเดียวเหมือนกับไพ่อื่น ๆ แต่รู้หรือไม่ครับว่าแท้จริงแล้ว โป๊กเกอร์ เป็นเกมไพ่ที่ถูกดัดแปลงออกไปมากที่สุด และวันนี้ผมจะพาทุกคนไปรู้จักกับ วิธีเล่น Poker 3 แบบ ที่นิยมเล่นเป็นอันดับต้น ๆ บนคาสิโนออนไลน์กันครับ
เฮ้อ! เล่นยังไงก็แพ้ เมื่อไหร่จะชนะ เมื่อไหร่จะเล่นเก่งซะทีนะ คำพูดเหล่านี้มักได้ยินผู้เล่นบางคนบ่นตลอด แต่ก็ยังเล่นอยู่นะ สู้ไม่ถอยเหมือนกัน เราก็ค่อนข้างเห็นใจเลยยกมาให้สัก 3 เทคนิคดี ๆ ที่จะช่วยให้เล่น Poker เก่งขึ้น รีบมาดูกัน
Poker เล่นยังไง
สิ่งแรกที่ต้องเข้าใจคือพื้นฐานการเล่นไพ่ โป๊กเกอร์ เกมนี้จะใช้ผู้เล่นประมาณ 2-10 คนแล้วแต่สะดวก ส่วนรูปแบบกติกาก็จะแตกต่างกันไปตามรูปแบบเกมที่จะเล่น (ซึ่งผมจะพูดถึงในหัวข้อถัดไป) โดยทั่วไปแล้ว โป๊กเกอร์ จะมีรูปแบบการเล่น อยู่ 2 ลักษณะคือ
- ทัวร์นาเม้นต์ จะเป็นการแข่งขันแบบเดียวกับพวกรายการกีฬาชนิดอื่น คือผู้เล่นจะต้องจ่ายค่าสมัครเพื่อเข้าร่วมแข่งขันกันเสียก่อน รูปแบบการแข่งขันจะเป็นลักษณะแพ้คัดออก ในการแข่งขันรอบแรกผู้เล่นทุกคนจะต้องแข่งกันเพื่อที่จะได้เป็นผู้ชนะของโต๊ะนั้นและได้สิทธิ์เล่นในรอบถัดไป ซึ่งจะแข่งแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนถึงรอบชิงชนะเลิศ ส่วนเงินรางวัลก็จะมาจากการสะสม Pot ของแต่ละโต๊ะในแต่ละรอบมาเรื่อย ๆ ดังนั้นผู้ชนะในรายการแข่งขันก็จะเป็นเจ้าของเงินรางวัลทั้งหมด ถือได้ว่าเปลี่ยนชีวิตกันเลยทีเดียว
- แคชเกม เป็นการเล่นที่พบได้บ่อยตามบ่อนทั่วไปรวมถึงคาสิโนขนาดใหญ่ ผู้เล่นจะต้องใช้ชิปหรือเงินสดในการเล่น ส่วนกติกาก็แล้วแต่ว่าผู้เล่นจะตกลงกันอย่างไร มีบางครั้งที่ยกหน้าที่นี้ให้กับผู้แจกไพ่เป็นคนกำหนดก่อนเริ่มเกม จุดเด่นของการเล่นแคชเกมก็คือผู้เล่นสามารถเข้าออกโต๊ะได้ตลอดเวลา แบบว่าถ้าเงินหมดจะออกไปกดแล้วกลับมาเล่นใหม่ก็ยังได้
ได้บอกกันแล้วบ้างสำหรับเทคนิคเล่นโป๊กเกอร์ให้เก่ง ทีนี้เมื่อเก่งแล้วก็ต้องชนะด้วย มาดูวิธีและเทคนิคชนะโป๊กเกอร์ ใน 4 ขั้นตอน ตามมากันเลย
วิธีเล่น Poker แบบต่าง ๆ
สำหรับในที่นี้ผมจะยกตัวอย่างการเล่น โป๊กเกอร์ 3 รูปแบบที่นิยมเล่นกันมากเป็นอันดับต้น ๆ ได้แก่ Texus Hold’em, Omaha และ 7 Stud poker ก็แล้วกัน เพราะนอกจากนี้ก็จะมีวิธีเล่นที่คล้ายกัน อาจมีกติกาเพิ่มมาบ้างเล็กน้อย
วิธีเล่น Texus Hold’em
ถือได้ว่าเป็นเกมที่นิยมเล่นมากที่สุดในโลก เพราะเล่นง่าย กติกาไม่ซับซ้อน คนที่เริ่มเล่นขอแค่ศึกษาวิธีการเล่น โป๊กเกอร์ เพียงเล็กน้อยก็สามารถเล่นได้แล้ว ซึ่งใน 1 เกมจะมีขั้นตอนการเล่นดังนี้
- ก่อนเริ่มเกม ผู้เล่นที่ได้ตำแหน่ง Big Blind และ Small Blind จะต้องวางเดิมพันตามกฎที่วางไว้ คือ Big Blind จะต้องวางเดิมพันเต็มจำนวนของขั้นต่ำที่โต๊ะกำหนด และ Small Blind จะต้องวางเดิมพันเพียงครึ่งหนึ่งของขั้นต่ำที่โต๊ะกำหนด หลังจากนั้นผู้เล่นคนอื่นจะต้องวางเดิมพันในจำนวนที่เท่ากัน เพื่อที่จะได้สิทธิ์ในการเล่นรอบแรก
- รอบแรก ผู้แจกไพ่จะแจกไพ่ให้ผู้เล่นทุกคน คนละ 2 ใบ โดยคว่ำหน้าเอาไว้ ไพ่ชุดนี้จะเรียกว่า Hold cards
- รอบที่สอง ผู้แจกไพ่จะหงายไพ่ 3 ใบไว้บนโต๊ะเป็นกองกลาง ไพ่ชุดนี้เรียกว่า Flop จากนั้นผู้เล่นจะเริ่มเล่นโดยเลือกว่าจะ Raise (เพิ่มเดิมพัน), Fold (ยอมแพ้), Call (เพิ่มเดิมพันตาม) หรือ Check (ขอผ่าน) เมื่อผู้เล่นทุกคนเล่นครบแล้วจะเข้าสู่รอบต่อไป
- รอบที่สาม ผู้แจกไพ่หงายไพ่ Turn ซึ่งเป็นไพ่กองกลางใบที่ 4 ไว้บนโต๊ะ แล้วให้ผู้เล่นที่เหลืออยู่แข่งขันกันต่อ
- รอบสุดท้าย ผู้แจกไพ่หงายไพ่ River ซึ่งเป็นไพ่กองกลางใบสุดท้าย ผู้เล่นที่เหลืออยู่จะเล่นด้วยตัวเลือกเดิมอีกครั้ง ก่อนจะโชว์ไพ่เพื่อวัดคะแนนกัน
- จบเกม ผู้เล่นที่ชนะจะได้รับเงินรางวัลจาก Pot ไป จากนั้นตำแหน่งการเล่นจะถูกเวียนไปตามเข็มนาฬิกา
สำหรับผู้เล่นที่ทำการเทหมดหน้าตัก (All-in) เดิมพันตรงนั้นจะถูกแยกไว้ไปอยู่ที่ Side pot หากผู้เล่นที่ All-in เป็นผู้ชนะจะได้รับเงินจาก Pot เท่านั้น ส่วน Side pot จะไม่ได้
Omaha
เป็นเกม โป๊กเกอร์ ที่ได้รับความนิยมรองจาก Hold’em รูปแบบกติกาจะมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย คือผู้เล่นจะมี Hold card เพิ่มเป็น 4 ใบ ส่วนไพ่กองกลางยังคงเป็น 5 ใบ เหมือนเดิม ส่วนวิธีเล่นมีขั้นตอนดังนี้
- ก่อนเริ่มเกม ผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่ง Big Blind และ Small Blind จะต้องวางเดิมพันก่อนตามกฎ
- รอบแรก ผู้เล่นทุกคนจะได้รับแจกไพ่ Hold cards 4 ใบ จากนั้นผู้เล่นทุกคนเริ่มเล่นและวางเดิมพันจนครบทุกคน
- รอบที่สอง ไพ่ Flop 3 ใบจะถูกหงายไว้บนโต๊ะ จากนั้นให้ผู้เล่นที่เหลืออยู่เล่นกันต่อ
- รอบที่สาม ไพ่ Turn ถูกหงายไว้บนโต๊ะ เพื่อให้ผู้เล่นที่เหลือได้วางเดิมพันและเล่นกันต่อ
- รอบที่สี่ ไพ่ River ถูกหงายไว้บนโต๊ะ จากนั้นผู้เล่นที่เหลืออยู่จะต้องเลือกไพ่ Hold cards มา 2 ใบเพื่อแทนที่ไพ่กองกลาง 2 ใบ เพื่อให้ได้ชุดไพ่ที่ดีที่สุด ผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัลไปครอง
- จบเกม ไพ่จะทั้งหมดจะถูกเก็บคืนเพื่อสับใหม่ พร้อมกับเวียนตำแหน่งผู้เล่นตามเข็มนาฬิกา
7 Stud Poker
เป็นเกม โป๊กเกอร์ ที่พัฒนามาจาก Hold’em และ Ohoma โดยมีการปรับกติกาคือจะไม่มีไพ่กองกลาง แต่ผู้เล่นจะได้รับไพ่คนละ 7 ใบ ชุดไพ่ของใครใหญ่ก็จะเป็นผู้ชนะในเกมนั้นไป นอกจากนี้ยังไม่มีตำแหน่ง Big Blind และ Small Blind อีกด้วย สำหรับ 7 Stud จะมีวิธีเล่นดังนี้
- ก่อนเริ่มเกม ผู้เล่นทุกคนจะต้องวางเดิมพันอย่างน้อย 10% ของชิปเดิมพันต่ำสุดก่อนรับแจกไพ่ เราจะเรียกเงินเดิมพันตรงนี้ว่า Ante
- รอบแรก ผู้เล่นทุกคนจะได้รับไพ่ 3 ใบ โดย 2 ใบแรกจะถูกคว่ำหน้า (2 Face down) ไว้และอีก 1 ใบหงายหน้า (Door card) ให้เห็น โดยคนที่มีแต้ม Door card ต่ำสุดจะต้องวางเดิมพันก่อนหรือจะทิ้งไพ่ก็ได้ หากทิ้งไพ่จะทำให้ผู้เล่นคนถัดไปที่อยู่ทางซ้ายต้องวางเดิมพันแทนเป็น 2 เท่าของ Ante หลังจากที่วางเดิมพันกันครบทุกคนแล้วจะเข้าสู่รอบต่อไป
- รอบที่สอง ไพ่ Fourth Street จะถูกหงายหน้าให้ผู้เล่นได้วางเดิมพันกันต่อ
- รอบที่สาม ไพ่ Fifth Street จะถูกหงายหน้าให้ผู้เล่นเช่นเดิม ส่วนเงินเดิมพันจะต้องวางเพิ่มจากรอบล่าสุดอย่างน้อย 2 เท่า
- รอบที่สี่ ไพ่ Sixth Street จะถูกหงายหน้าให้กับผู้เล่น จากนั้นก็เล่นกันตามปกติ
- รอบที่ห้า ไพ่ River ซึ่งเป็นไพ่ใบสุดท้ายจะถูกคว่ำหน้าให้กับผู้เล่น หลังจากนั้นผู้เล่นที่ทำการ Raise จะต้องทำการ Show down หรือเปิดไพ่ก่อน จากนั้นผู้เล่นที่ Call จะต้องเปิดไพ่วัดกันตามลำดับวนตามเข็มนาฬิกา โดยไพ่ที่ใช้วัดกันจะเลือกจากไพ่ 5 ใน 7 ใบ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับวิธีการเล่นไพ่ โป๊กเกอร์ แบบต่าง ๆ ที่นำมาฝากกันในบทความนี้ สำหรับวิธีการเล่นรูปแบบอื่นก็จะมีวิธีการเล่นที่ใกล้เคียงกัน สังเกตดูว่าถ้าชื่อเกมคล้ายกันนั่นแหละครับคือเกมเดียวกันแต่เขาเอามาดัดแปลงเล็กน้อยให้มันสนุกมากขึ้น และก่อนจากกันอย่าลืมด้วยว่าการฝึกเล่นบ่อย ๆ นอกจากจะช่วยให้เราชำนาญแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่จะไม่ให้เรากลายเป็นไก่ให้คนอื่นรุมกินโต๊ะได้เป็นอย่างดีครับ