รวมเรื่องสำคัญที่ มือใหม่ต้องรู้ก่อนเล่น Poker
รวมเรื่องสำคัญที่ มือใหม่ต้องรู้ก่อนเล่น Poker กุญแจสำคัญที่จะช่วยไขประตูแห่งความล้มเหลวให้กับเหล่ามือใหม่หัดเล่น โป๊กเกอร์ ก็คือการเล่นโดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะไปเริ่มจากจุดไหนดี ทุกวันนี้เวลาเราหาข้อมูลเกี่ยวกับการเล่น โป๊กเกอร์ หลัก ๆ ก็จะเจอพวกวิธีการเล่นอย่าง Texas Hold’em, Omaha หรือ 7Stud เสียมากกว่า คนส่วนใหญ่ก็เลยไม่รู้ว่าที่เจออยู่ตรงหน้ามันยังไม่ใช่ทั้งหมด มันยังมีเรื่อง Tournament, Cash Game, Fullring, 6-max ที่ต้องรู้ก่อนเรื่องพวกนี้ด้วย และคำตอบทั้งหมดก็รออยู่ในบทความนี้แล้วครับ
สำหรับนักเล่นโป๊กเกอร์มือใหม่ เราขอเตือนคุณด้วยความหวังดีว่า จะมัวแต่ไปมองหาสูตร หรือหาวิธีไปบลัฟคู่ต่อสู้อยู่เลย มันมีอะไรที่ดีกว่านั้นให้คุณมองหาเพื่อเรียนรู้ทำความเข้าใจ เพราะหากคุณขาดสิ่งนี้ที่เรียกว่าคุณสมบัติและเทคนิคพื้นฐานไปแล้วละก็ ร้อยทั้งร้อยรับรองว่าไปไม่ตลอดรอดฝั่งแน่นอน งั้นวันนี้อย่ารอช้ามาดู 3 คุณสมบัติสำคัญที่มือใหม่ต้องรู้ 6 เทคนิค พิชิต Pot-Limit Omaha Poker กันเถิด
Tournament คืออะไร
ในช่วงที่เรากำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีเล่น Poker สิ่งหนึ่งที่จะได้ผ่านตาแน่นอนก็คือคำว่า Tournament มันคือการแข่งขันอีกระดับหนึ่งที่มีความแตกต่างจาก Cash Game ตรงที่การแข่งขันจะแบ่งกันเป็นรอบ เหมือนกับฟุตบอลโลกที่เริ่มต้นด้วยการแข่งขันกันในโซนก่อน จากนั้นค่อยเอาผู้ชนะของแต่ละโต๊ะในรอบนั้นมาแข่งกันในรอบต่อไป ส่วนเงินใน Pot ที่เราชนะในแต่รอบจะยังไม่ได้รับ มันจะถูกนำไปรวมกันที่โต๊ะของรอบถัดไป ทำเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนถึงรอบสุดท้ายซึ่งเป็นรอบชิงดำ เพื่อที่จะได้ผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น และเดี๋ยวนี้ก็สามารถสมัครแข่งขันผ่าน คาสิโนออนไลน์ ได้อีกด้วย โดยการแข่งขันแบบ Tournament ก็มีข้อดีข้อเสียดังนี้
ข้อดีหลัก ๆ ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ ฟิชเยอะ เล่นง่าย แล้วถ้าเราชนะหรือแค่ติด 3 อันดับแรก เรียกได้ว่าเปลี่ยนชีวิตกันเลย เพราะรางวัลที่ได้มันเยอะมาก ๆ
ถึงจะมีข้อดีล่อตาล่อใจก็ใช่ว่าจะเล่นกันง่าย ๆ โป๊กเกอร์ แบบ Tournament จะมีข้อเสียตรงที่ค่า Variance (ความผันผวนของกำไร) สวิงหนักมาก ขนาดมือโปรระดับโลกก็ใช่ว่าจะได้ทุกรอบที่เล่น บางคนชวดรางวัลกันเป็นเดือนเป็นปีเลยทีเดียว แถมใช้เวลาเล่นนานมาก สูบพลังชีวิตโคตรร ๆ เล่นกันที 2-5 ชั่วโมง เท่ากับว่าถ้าเราตายก่อน In the Money ก็เสียเปล่า คือเราไม่ได้รับเงินขั้นต่อของทัวร์นาเม้นต์นั่นเอง ที่สำคัญแบงค์โรลต้องใหญ่ขั้นสุด ต่ำ ๆ ก็ 100 x buy-in เพราะเราอาจชวดเงินหลายสิบตา หรือว่าอาจยาวกันเป็นเดือน
Cash Game
เห็นการเล่นแบบ Tournament กันไปแล้ว แหม เงินรางวัลมันก็ล่อตาแต่ว่าเงินในกระเป๋าเรามันไม่อำนวยนี่ซิ อย่าเพิ่งถอดใจไป เพราะใน คาสิโนออนไลน์ ส่วนใหญ่เขาจะมี Cash Game Poker ให้เราเล่นอยู่แล้ว รูปแบบการเล่นก็เหมือนกับ โป๊กเกอร์ ทั่ว ๆ ไปคือเล่นโต๊ะเดียวจบ ใครชนะก็กวาดเงินใน Pot ของโต๊ะนั้นไปได้เลย ไม่ต้องแข่งกันเข้ารอบไปเรื่อย ๆ เพื่อแย่งเงินรางวัลกัน เรียกว่าเล่นง่าย สบายใจ ไม่เสียเวลา
ข้อดีหลัก ๆ ที่ทำให้ Cash Game เป็นที่นิยมในหมู่นักเล่น โป๊กเกอร์ มือใหม่ก็คือ อิสระในการเล่น ไม่จำเป็นต้องนั่งแช่กันนาน ๆ จะเล่นแค่ครึ่งชั่วโมง หรือหลายชั่วโมงก็ได้ไม่มีใครว่าอะไรให้ ไม่ต้องมาคอยกังวลหรือโดนกดดันจากเงิน Blind ที่ขยายขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้มีสมาธิในการเล่นช่วง Post-flop มากขึ้น มีจังหวะให้เล่นงานฟิชเหลือเฟือ ส่วนเรื่องการสวิงของกำไรก็น้อยกว่าแบบ Tournament กันหลายขุม ไม่ต้องทุ่มทุนหนักเวลาจะเล่น มีแค่ 40-50 Buy-in ก็มากพอที่จะพาเราไปลุยกันได้แล้ว
ถึงอย่างนั้น Cash Game ก็มีเรื่องชวนให้ปวดหัวเหมือนกัน เนื่องจากมันเป็นเกมที่มีค่า Variance ต่ำมาก และมีอิสระในการเล่นสุด ๆ ทำให้พวกตัวโหด ๆ มากองรวมกัน รางวัลก็น้อยกว่าแบบ Tournament ใครที่ขี้เบื่ออาจต้องเจอกับความซ้ำซากของ Blind เดิม ๆ ที่เข้ามาทุกวัน ไม่มี Big Pay Day และที่โดนตอดกันมากที่สุดก็คือ Rake หรือเงินที่เป็นเหมือนค่าธรรมเนียมในการเล่นของเรา ซึ่ง คาสิโนออนไลน์ จะหักออกไปเป็น % เพื่อเป็นรายได้ให้กับคาสิโน โดย Rake ของ Cash Game จะถูกหักออกจาก Pot ทุกครั้งที่เล่นจบในแต่ละมือ ขณะที่แบบทัวร์นาเม้นต์จะหักออกจากเงินรางวัลทั้งหมด
Fullring กับ 6-Max ต่างกันอย่างไร
อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องเข้าใจก็คือเรื่อ Fullring กับ 6-Max ซึ่งตรงนี้ผมจะขอพูดไปพร้อม ๆ กันเลย เพราะมันก็คือเรื่องเดียวกันนั่นเอง การเล่นแบบ Fullring คือการเล่นแบบโต๊ะ 9 คน ส่วน 6-Max ก็ตามชื่อคือ 6 คนต่อโต๊ะ แต่สิ่งที่เราต้องเข้าใจไม่ใช่เรื่องของจำนวนคน มันคือเรื่องเงินและการเล่นต่างหากล่ะครับ การเล่น โป๊กเกอร์ ต่อให้ไม่ขยับก็มีค่าใช้จ่าย หรือที่เรียกกันว่า “ต้นทุนต่อการนั่งรอใน 1 รอบ” ส่วนผสมของมันก็คือเงิน Blind (Big Blind + Small Blind) หากมี Antes หรือเงินที่ผู้เล่นอื่นวางก่อนเล่นในแต่ละมือก็ให้เอามาคิดด้วย โดยวิธีคิดก็คือ
ใน Fullring 1 รอบจะเสียค่ารอ 1.5 Big Blind (SB (0.5)+BB (1)) เพื่อที่จะดูไพ่ 9 มือ ซึ่งมันก็มีข้อดีตรงที่เราสามารถเลือกได้ว่าจะเล่นสไตล์ไหน จะเป็น Tight หรือ Loose หรือจะ Nit ที่มีการระวังตัวสูงกว่า Tight เลยก็ได้
ส่วน 6-Max จำนวนคนน้อยกว่าก็จริง แต่ต้นทุนดันเท่ากันเสียได้ เมื่อต้องเสียตั้ง 1.5 Big Blind เพื่อดูไพ่แค่ 6 มือ มันก็ต้องหาอะไรทำกันบ้างเพื่อที่จะได้คุ้มเงินที่เสีย ส่วนใหญ่ก็เริ่มจาก Steal Blind ก็คือเอาไพ่ต่ำ ๆ ไปเกทับเพราะหวังจากขโมยเงินบลายด์ คือไม่หวังสู้แล้วกะเล่นมันตั้งแต่รอบ Pre-flop นี่แหละ แต่อีกฝั่งที่ต้องจ่าย Blind ก็ไม่ยอมง่าย รีบ Call ตามไม่ก็เกทับกลับมาเพื่อทำ Defend Blind แล้วในโต๊ะ 6 คนสิ่งที่จะเจอบ่อยก็คือพวก Loose ที่จะคอย Raise กันด้วยไพ่ต่ำแบบรัว ๆ ทำให้ Range ไพ่มันกว้างจนเดาได้ยาก บางทีรอบนี้ Raise AK ทั้งที่รอบก่อนเล่น 46 off suit กว้างขนาดนี้ขนาดโปรยังส่ายหน้าเลย
สรุปก็คือเห็น 6-Max คนน้อยอย่างนี้เล่นยากกว่า Fullring อีก เพราะบนโต๊ะจะมีแต่พวก Loose กับ Aggressive เยอะมาก ๆ มือใหม่หัดเล่น โป๊กเกอร์ จึงเหมาะกับ Fullring มากกว่า ที่นั่นจะได้ที่ฝึกอ่านไพ่ และอัพสกิลใหม่ ๆ ติดตัวด้วย อีกอย่างการเล่น Tight ง่ายกว่า Loose เยอะ จากนั้นค่อยไปลุยใน 6-Max หรือ Heads Up ก็ยังไม่สาย เพียงแต่เวลาเจอฟิชบนโต๊ะ Fullring มันจะต้องคอยแย่งกับคนอื่น
ส่วนใครที่คล่องการเล่นแบบ Aggressive ก็จะเล่นบน 6-Max ง่ายขึ้น สามารถขยับ Stake ขึ้นไปได้อีกตามต้องการ (ระดับราคา Buy-in เริ่มจาก Micro Stake, Low Stake, Medium Stack และ High Stake) มีฟิชให้ล่าเยอะกว่า Fullring อีกด้วย
สำหรับนักเล่นโป๊กเกอร์ทุกท่านทั้งมือเก่ามือโปรและมือใหม่หัดเล่น สิ่งที่ทำให้เราชนะคู่ต่อสู้ได้ไม่ใช่เพียงแค่เรารู้กติกาวิธีเล่นเท่านั้น มันยังมีวิธีหรือกลยุทธ์ที่เด็ดๆอีกมากมาย เพราะฉะนั้นวันนี้เราขอพาคุณๆทั้งหลายไปแนะนำให้รู้จักกับ 10 กลยุทธ์ Poker ที่นักเล่นโป๊กเกอร์ต้องมีติดตัว